Measurement Protocol ของ Google Analytics ช่วยปรับปรุงการวัดผลสตรีมเว็บและสตรีมแอปด้วยการส่งเหตุการณ์ไปยังเซิร์ฟเวอร์ Google Analytics โดยตรงในคำขอ HTTP คุณสามารถบันทึกการโต้ตอบจากเซิร์ฟเวอร์ถึงเซิร์ฟเวอร์และการโต้ตอบแบบออฟไลน์ จากนั้นจึงส่งเป็นเหตุการณ์ Measurement Protocol ไปยัง Google Analytics และดูในรายงานได้
คุณต้องใช้การติดแท็ก (gTag, Tag Manager หรือ Google Analytics สําหรับ Firebase) เพื่อใช้โปรโตคอลนี้ ดูข้อมูลสําคัญเกี่ยวกับวิธีที่ Measurement Protocol นี้ทํางานร่วมกับ Google Analytics ได้ที่ฟีเจอร์หลัก
กรณีการใช้งาน
ตัวอย่างวิธีใช้ Measurement Protocol มีดังนี้
- เชื่อมโยงพฤติกรรมออนไลน์กับออฟไลน์
- วัดการโต้ตอบทั้งฝั่งไคลเอ็นต์และฝั่งเซิร์ฟเวอร์
- ส่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายนอกการโต้ตอบทั่วไปของผู้ใช้ เช่น Conversion ออฟไลน์
- ส่งเหตุการณ์จากอุปกรณ์และแอปที่ไม่สามารถทำการเก็บรวบรวมแบบอัตโนมัติได้ เช่น คีออสก์และนาฬิกา
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีใช้ Use Case ทั่วไปได้ในคำแนะนำเกี่ยวกับ Use Case
เริ่มต้นใช้งาน
ดูส่งเหตุการณ์เพื่อดูวิธีส่งเหตุการณ์ไปยัง Google Analytics โดยใช้ Measurement Protocol
หากใช้ Measurement Protocol สําหรับสตรีมแอป ให้เริ่มต้นด้วยส่งเหตุการณ์แอปไปยัง Google Analytics โดยใช้ Measurement Protocol ใน Codelab
สถาปัตยกรรม
ภาพรวมของ Measurement Protocol มีดังนี้
ฟีเจอร์หลัก
ส่วนนี้จะอธิบายข้อมูลสําคัญสําหรับการใช้ Measurement Protocol คุณต้องใช้ gTag, Tag Manager หรือ Google Analytics สําหรับ Firebase ในการติดแท็กเมื่อจะใช้งานฟีเจอร์ส่วนใหญ่ของ Measurement Protocol ร่วมกับ Google Analytics
รีมาร์เก็ตติ้ง
ระบบรองรับรีมาร์เก็ตติ้งในอุปกรณ์เครื่องเดียวกันเมื่อเปิด Google Signals สําหรับรีมาร์เก็ตติ้งข้ามอุปกรณ์ คุณต้องใช้รหัสผู้ใช้
ตัวระบุการโฆษณา
ระบบจะผนวกตัวระบุโฆษณา เช่น GBRAID/WBRAID ที่รวบรวมระหว่างการโต้ตอบออนไลน์เข้ากับเหตุการณ์ Measurement Protocol โดยอัตโนมัติโดยใช้ client_id
หรือ app_instance_id
การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
ระบบจะรวมเหตุการณ์ Measurement Protocol เข้ากับการโต้ตอบออนไลน์โดยใช้ client_id
หรือ app_instance_id
เพื่อใช้การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ เช่น "โฆษณาที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้" และ "จํากัดการติดตามโฆษณา"
ข้อมูลทางภูมิศาสตร์และอุปกรณ์
Google Analytics จะผนวกข้อมูลภูมิศาสตร์และอุปกรณ์ล่าสุดจากการติดแท็กกับเหตุการณ์ Measurement Protocol โดยอัตโนมัติโดยใช้ client_id
หรือ app_instance_id
ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจว่าเหตุการณ์ Measurement Protocol จะแสดงในรายงานที่มีมิติข้อมูลทางภูมิศาสตร์และอุปกรณ์
หากต้องการให้เหตุการณ์ Measurement Protocol แสดงข้อมูลทางภูมิศาสตร์และอุปกรณ์จากเซสชันที่เฉพาะเจาะจงแทนข้อมูลล่าสุดสําหรับ client_id
หรือ app_instance_id
ให้ใส่ session_id
ในเหตุการณ์และส่งไปยัง Measurement Protocol ภายใน 24 ชั่วโมงนับจากเริ่มเซสชัน
คุณสามารถระบุข้อมูลทางภูมิศาสตร์สําหรับเหตุการณ์ได้โดยใช้ Measurement Protocol
คุณไม่สามารถส่งข้อมูลอุปกรณ์โดยใช้ Measurement Protocol หากแท็กไม่ได้รวบรวมข้อมูลอุปกรณ์ ค่าเริ่มต้นจะเป็น desktop
สําหรับสตรีมเว็บ และ mobile
สําหรับสตรีมแอป
เซิร์ฟเวอร์ต่อเซิร์ฟเวอร์อย่างเต็มรูปแบบ
แม้ว่าคุณจะส่งเหตุการณ์ไปยัง Google Analytics โดยใช้ Measurement Protocol เพียงอย่างเดียวได้ แต่การรายงานอาจใช้ได้เพียงบางส่วน วัตถุประสงค์ของ Measurement Protocol คือการเพิ่มเหตุการณ์ที่มีอยู่ซึ่งรวบรวมโดยใช้ gtag, GTM หรือ Firebase ชื่อเหตุการณ์และพารามิเตอร์บางชื่อสงวนไว้สําหรับใช้ผ่านการรวบรวมอัตโนมัติและไม่สามารถส่งผ่าน Measurement Protocol ได้
สร้างหรือเปลี่ยนชื่อเหตุการณ์
กฎสําหรับการสร้างหรือเปลี่ยนชื่อเหตุการณ์จะไม่ทริกเกอร์โดยเหตุการณ์ที่ส่งด้วย Measurement Protocol แอปพลิเคชันควรใช้ตรรกะในการส่งเหตุการณ์ที่กําหนดเองผ่าน Measurement Protocol ซึ่งคล้ายกับกฎที่กําหนดค่าไว้ใน UI ของ Google Analytics
ขั้นตอนถัดไป
- ดูวิธีส่งเหตุการณ์โดยใช้ Measurement Protocol
- ตรวจสอบเพย์โหลดเหตุการณ์โดยใช้เซิร์ฟเวอร์การตรวจสอบ Measurement Protocol
- โปรดดูข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับโปรโตคอลและเหตุการณ์